Content Marketing

💡 ในยุคปัจจุบันธุรกิจแข่งขันกันในโลกออนไลน์อย่างดุเดือด เพื่อแย่งชิงความสนใจจากผู้คน ทุกคนต่างก็ทำโฆษณาเพื่อสื่อสารไปยังกลุ่มเป้าหมาย การที่ลูกค้าจะดูโฆษณา หรืออ่านบทความ ขึ้นอยู่กับคอนเทนต์ เนื้อหาที่นำเสนอออกไป
⭐️ 𝗖𝗼𝗻𝘁𝗲𝗻𝘁 𝗠𝗮𝗿𝗸𝗲𝘁𝗶𝗻𝗴 คืออะไร ❓
🔺 𝗖𝗼𝗻𝘁𝗲𝗻𝘁 𝗠𝗮𝗿𝗸𝗲𝘁𝗶𝗻𝗴 คือ หนึ่งในกลยุทธ์ทางการตลาดที่เน้นการสร้างสรรค์ และนำเสนอเนื้อหา (Content) เพื่อสื่อสารกับกลุ่มเป้าหมาย อย่างสม่ำเสมอ ไม่ว่าจะเป็นดึงดูดความสนใจ สร้างการจดจำแบรนด์กระตุ้นการตัดสินใจ เพื่อเพิ่มยอดขาย จนกลุ่มเป้าหมายเกิดความประทับใจ ผูกพัน และจดจำภาพลักษณ์ของแบรนด์ได้จนกลายเป็นกำลังสำคัญในการซื้อในที่สุด
โดยคอนเทนต์ อาจจะมีรูปแบบที่เป็นบทความ, ภาพถ่าย, วิดีโอ, โพสต์, สเตตัส หรือแม้แต่การรีวิวก็นับว่าเป็นคอนเทนต์ที่เป็นตัวกลางในการสื่อสารระหว่างแบรนด์ไปหาลูกค้าได้ทั้งสิ้น แต่หากต้องการทำคอนเทนต์ให้ประสบความสำเร็จนั้นก็ต้องอาศัยสิ่งที่เรียกว่า Content Marketing เข้ามาเป็นกลยุทธ์ในการนำเสนอเพื่อให้ธุรกิจสามารถสร้างการเติบโตได้ในโลกออนไลน์
⭐️ ทำไม 𝗖𝗼𝗻𝘁𝗲𝗻𝘁 𝗠𝗮𝗿𝗸𝗲𝘁𝗶𝗻𝗴 ถึงสำคัญกับการทำ 𝗗𝗶𝗴𝗶𝘁𝗮𝗹 𝗠𝗮𝗿𝗸𝗲𝘁𝗶𝗻𝗴 ❓
🔺 การทำ Content Marketing ที่ดีช่วยให้การทำ Digital Marketing กลยุทธ์อื่นๆ ง่ายขึ้น เช่น สามารถทำ SEO ของเว็บไซต์ได้ง่าย เมื่อ Google เข้ามาเก็บข้อมูลก็จะสะดวก และเว็บไซต์ของเราก็จะได้คะแนนสูง อีกทั้งยังสามารถเล่าเรื่องราว ให้ความรู้ สร้างความประทับใจ และสร้าง Brand Awareness ให้กับกลุ่มเป้าหมายได้ง่ายและเป็นธรรมชาติ ดังนั้น Content Marketing จึงเปรียบเสมือน Pull Strategy ในทางการตลาดเป็นการดึงลูกค้าเข้าสู่แบรนด์ได้ตรงจุด และสร้างคุณค่าตระหนักรู้ได้ง่ายกว่ากลยุทธ์อื่นๆ

✅ อยากวางเเผนกลยุทธ์การตลาดออนไลน์ TTPCM ช่วยได้
✅ เริ่มต้นวางเเผนกลยุทธ์ในการทำการตลาดออนไลน์อย่างมีประสิทธิภาพ
✅ การันตีเพิ่มยอดขาย 𝟱 เท่า ภายใน 𝟯 เดือน
✅ วางเเผนการทำการตลาดออนไลน์อย่างมีประสิทธิภาพ เลือกใช้เครื่องมือทางการตลาดให้ถูกต้อง
✅ ปรึกษาด้านการทำการตลาดออนไลน์ ฟรี
.
𝗦𝗣𝗘𝗖𝗜𝗔𝗟 𝗦𝗘𝗥𝗩𝗜𝗖𝗘 𝗙𝗘𝗘
𝗘𝗫𝗖𝗟𝗨𝗦𝗜𝗩𝗘 𝗢𝗡𝗟𝗬 𝗔𝗧 TPPCM
ทำการตลาดออนไลน์อย่าง 𝗙𝗟𝗘𝗫 เลือก TTPCM ให้ดูเเลธุรกิจของคุณอย่างลงตัว
.
𝗖𝗼𝗻𝘁𝗮𝗰𝘁 𝘂𝘀;
🌐 𝗢𝗳𝗳𝗶𝗰𝗶𝗮𝗹 𝗪𝗲𝗯𝘀𝗶𝘁𝗲: www.ttpcm.co.th
📩 𝗘𝗺𝗮𝗶𝗹: info@ttpcm.co.th
📞 𝗧𝗲𝗹: 089-622-2499
📱 𝗔𝗱𝗱 𝗹𝗶𝗻𝗲 @tccpm

เทคนิค SEO ที่ทำให้เว็บไซต์ของคุณอยู่เป็นอันดับต้นๆ

🔴 6 เทคนิค SEO ที่ทำให้เว็บไซต์ของคุณอยู่เป็นอันดับต้นๆ 🔴
🎯 1.ทำแผนการตลาดสำหรับทำ SEO ทั้งหมด
การทำแผนการตลาดล่วงหน้าจะช่วยให้คุณคุมงบประมาณได้
🎯 2. ค้นหา Keyword ที่ต้องการให้เว็บไซต์คุณติดอันดับหรือนำมาทำ SEO
หากคุณเป็นธุรกิจใหม่ยังไม่มีข้อมูลใดๆ สามารถเริ่มทำได้ด้วยการค้นหา Keyword เป็นอันดับแรก
🎯 3. ปรับแต่งเว็บไซต์
สำหรับเว็บไซต์ที่จะได้คะแนนจาก Google จะต้องเป็นหน้าเว็บที่มีคอนเทนต์ที่แฝงไปด้วย Keyword ในตำแหน่งต่างๆ กระจายอยู่ทั่วทุกหน้าของเว็บไซต์ เว็บไซต์ที่ SEO ขึ้นเร็วๆ มีลักษณะที่เหมือนกันอย่างหนึ่งคือ มีตัวหนังสือเยอะ หรือที่เรียกว่า “Onsite” และสิ่งสำคัญที่ขาดไม่ได้คือ Link ที่ต้องใส่ทั้งภายในเว็บไซต์ตัวเอง (ลิงก์กันไปมาระหว่างหน้าต่างๆ) กับ Link ที่แปะไว้นอกเว็บไซต์แล้วชี้เป้ากลับเข้ามายังเว็บไซต์ของตน (Backlink)
🎯 4. ส่งคอนเทนต์ไปสู่เว็บไซต์ข้างนอก
วิธีการนี้เราจะเรียกว่า Outreach โดยส่วนประกอบของคอนเทนต์ประเภทนี้นอกจากจะแฝงคำ Keyword ไปในคอนเทนต์แล้วยังจะมีการแทรกลิงก์เพื่อทำเป็น Backlink ให้คนอ่านคอนเทนต์คลิกเข้ามาบนหน้าเว็บไซต์ของเรา
🎯 5. ตรวจสอบพร้อมปรับปรุงแก้ไข
การทำ SEO นั้นไม่ใช่ทำเสร็จแล้วปล่อยไปเลย อย่างน้อยสัปดาห์ละ 1 ครั้งที่คุณจะต้องเข้ามาดูการจัดลำดับของ Keyword ของคุณ รวมถึง Rank ของหน้าเว็บไซต์ว่าตอนนี้ Keyword คำไหนบ้างที่ติดหน้าแรก หาก Keyword กว้างเกินไป การทำ SEO อาจจะเห็นผลช้าหรือไม่เห็นผลเลยก็ได้ ดังนั้นในบางกรณีคุณอาจจะต้องมีการปรับ เปลี่ยน Keyword บางคำใหม่
🎯 6. ให้ Social Media เป็นตัวช่วย SEO ของคุณ
คนอาจยังไม่รู้ว่าแท้จริงแล้ว Social Media ก็มีส่วนช่วยให้การทำ SEO ของคุณได้ด้วยเช่นกัน โดย Social Media จะช่วย SEO ในแง่ของการที่คอนเทนต์ถูกแชร์ออกไป อาจจะเป็น Outreach หรือ Blog ก็ได้ เพราะในคอนเทนต์เหล่านั้นเราใส่ Keyword พร้อมกับทำ Backlink ไว้อยู่แล้ว เมื่อมีการแชร์เยอะ คนอ่านมาก คะแนนของ Keyword นั้นๆ ก็จะค่อยๆ เพิ่มขึ้นไปตามลำดับ

หัวใจสำคัญในการทำ SEO ให้ประสบความสำเร็จ

💘 𝟯 หัวใจสำคัญในการทำ 𝗦𝗘𝗢 ให้ประสบความสำเร็จ
ปัจจัยที่มีผลที่จะทำให้เว็บไซต์ของเราสมบูรณ์แบบ ในแบบฉบับของ Google จะต้องมีการจัดการกับ 3 ส่วนนี้ให้ดีและมีประสิทธิถาพ นั่นคือ
⭕️ 𝗢𝗡-𝗦𝗜𝗧𝗘
หนึ่งในหัวใจของ SEO คือ การปรับปรุงคุณภาพของเว็บไซต์ในเชิงเทคนิคเพื่อให้ตอบโจทย์กับระบบการประมวลผลของ Google เช่น การปรับปรุงความเร็วของเว็บไซต์, การจัดเรียง Sitemap, การดู URL, การทำ Internal Links และ การทำ Title Tags ให้ตอบโจทย์ เป็นต้น
⭕️ 𝗢𝗙𝗙-𝗦𝗜𝗧𝗘
คือปัจจัยภายนอกเว็บไซต์ ซึ่งจะประกอบไปด้วย การจัดการ Google My Business และการทำ Backlinks หรือ Links Building เพื่อเชื่อมโยงมาจากเว็บอื่นๆ การทำ Off Site นั้นไม่ยาก เพียงแค่นำเสนอและทำบทความลงในเว็บไซต์ที่ไม่ใช่ของตนเอง โดยจะมีการใส่ Keywords รวมถึงลิงก์เว็บไซต์ของเราลงไป เพื่อให้คนคลิกลิงก์กลับมายังหน้าเว็บไซต์ที่ต้องการ เป็นต้น
⭕️ 𝗖𝗢𝗡𝗧𝗘𝗡𝗧
อีกหนึ่งหัวใจของ SEO คือ Content หรือเนื้อหาภายในเว็บไซต์ ซึ่งการทำให้บทความที่อยู่ในเว็บไซต์ต้องตอบโจทย์กับ Keywords ที่เลือก เพื่อให้ Google เห็นว่าภาพรวมทั้งหมดสอดคล้องกับสิ่งที่คนกำลังค้นหา โดยครอบคลุมตั้งแต่การเลือก Keywords, ความยาวของเนื้อหา, ตำแหน่งของการจัดวาง Keywords และความสอดคล้องของ Keywords กับเนื้อหานั่นเอง

กลุ่มลูกค้าหลากหลาย

เว็บไซต์เป็นหน้าตาของบริษัท และความประทับใจแรกของลูกค้า เริ่มต้นต้องดี เพื่อเป้าธุรกิจของคุณ🎯
พร้อมโปรโมชั่นพิเศษ ฟรี❗ Hosting และ Domain
.
ให้ทีม TTP สร้างและปรับแต่งเว็บไซต์อย่างมืออาชีพ ปรับ UX/UI ให้ mobile-friendly 📱 ลูกค้าเข้าง่ายๆ ได้ทุกที่ เหมาะกับการค้นหา เพิ่มการเข้าถึงลูกค้า สร้างโอกาสให้ธุรกิจคุณ✅
.
สอบถามรายละเอียด และโปรโมชั่น ฟรี! 👨🏻‍💻
ให้ Cart-Biz ดูแลธุรกิจคุณ 🙋‍♂️
บริการด้าน E-Commerce ครบวงจร
📌เปิดร้านค้าออนไลน์ (Shopee, Lazada)
📌สร้างเว็บไซต์ ออกแบบเว็บไซต์ในแบบของคุณ
📌ทำโฆษณา (Facebook ad, SEM, GDN, ETC)
📌SEO (โปรโมทเว็บไซต์ให้อยู่หน้าแรก Google)
.
📞โทร 089-622-2499
.
พิสูจน์แล้วจากแบรนด์ดัง และร้านค้ามากมาย🙏
ด้วยความเชี่ยวชาญของทีมเรา จะพาธุรกิจคุณก้าวไปอีกระดับ

วิธีการทำ SEO Page ให้เป็นอมตะ

📈 วิธีการทำ 𝗦𝗘𝗢 𝗢𝗻-𝗣𝗮𝗴𝗲 ให้เป็นอมตะ 📈
𝗦𝗘𝗢 𝗢𝗻-𝗣𝗮𝗴𝗲 คือการปรับแต่งเนื้อหาบนหน้าเว็บไซต์ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและคุณภาพให้ดีพอต่อผู้ใช้งานและตัวอัลกอริทึมของ Search Engine ซึ่งจะส่งผลโดยตรงต่อการทำ 𝐒𝐄𝐎
🎯 เทคนิคการทำ 𝗦𝗘𝗢 𝗢𝗻-𝗣𝗮𝗴𝗲 ให้เป็นอมตะ
🔺 การปรับแต่งในส่วนของเนื้อหา และ Keyword
วิธีการทำ SEO อันดับแรก คือ การหา Keyword ที่ดีเพื่อมาต่อยอดเขียนบทความ ต่อมาคือการใส่และกระจายคีย์เวิร์ดในบทความของเราอย่างเป็นธรรมชาติ ไม่มากหรือน้อยจน Google ตรวจไม่เจอ
🔺 Heading Tag
การทำ SEO จะขาดการใส่ Heading หรือ หัวข้อหลัก หัวข้อย่อยไปไม่ได้เลย เพราะ Google ต้องอาศัยการอ่าน H1 H2 H3 เป็นตัวแบ่งแยกหัวข้อต่าง ๆ ในบทความ โดยปกติแล้ว Heading จะมีตั้งแต่ H1 – H6 แต่เรามักจะใส่หัวข้อไม่เกิน H3 มิฉะนั้นเนื้อหาอาจจะดูซับซ้อนเกินไปได้ และ H1 ต้องมีเพียงตัวเดียวเท่านั้นก็คือ หัวข้อบทความ นอกจากนี้เราควรใส่ Keyword ลงไปในหัวข้อต่าง ๆ ด้วย เพื่อดันคีย์เวิร์ดหลักของเราให้เด่นยิ่งขึ้น
🔺 Image Alt
การใส่รูปภาพประกอบในการทำ SEO ควรใช้คำสั้น ๆ ไม่ซับซ้อน และควรใส่คีย์เวิร์ดด้วยทุกภาพเพราะ Google bot จะไม่สามารถเข้าใจรูปภาพได้หากไม่มีภาษา HTML
🔺 การปรับแต่ง Meta Tag
ถือเป็นอีกองค์ประกอบที่สำคัญมากสำหรับการทำ On-Page SEO เพราะเป็นส่วนที่อธิบายเนื้อหาทั้งหมดของเว็บเพจนั้น ๆ ว่ามีข้อมูลเกี่ยวกับอะไรบ้าง เราสามารถแบ่ง Meta Tag ออกเป็น 2 ส่วนคือ Title Tag, Meta Description.